แค่อยากระบาย...เข้าใจไหม ?

          ผู้หญิงเราแค่ได้ระบายความอัดอั้นตันใจก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว... แต่หนุ่ม ๆ เขาไม่เข้าใจหรอกนะ... เมื่อรับฟังเรื่องราวของคุณ เขาจะทำหน้าที่ผู้นำด้วยคำแนะนำและวิธีการแก้ไขปัญหาสารพัด คำพูดของเขานี่แหล่ะที่ทำให้คุณปรี๊ดแตกได้เสมอ

          ผลการศึกษาของ University of Lowa พบว่า “คู่รักที่แต่งงานกันนาน 7 ปีขึ้นไป เวลาแนะนำอะไรที่อีกฝ่ายไม่ได้เอ่ยปากขอ ความพึงพอใจในความสัมพันธ์จะน้อยลง (ซะงั้น)” รู้อย่างนี้ แทนที่จะแสดงท่าทีรำคาญใส่อีกฝ่าย ทำไมไม่ทำให้เขาเข้าใจล่ะว่าคุณแค่ต้องการระบาย หรือกำลังต้องการความช่วยเหลือกันแน่...

1. เอาใจเขามาใส่ใจเรา คนเราควรเข้าใจความแตกต่างระหว่าง ‘การระบาย’ กับ ‘การปรึกษา’ คุณก็ควรรู้ว่าตัวเองอยู่ในอารมณ์ไหน ก่อนจะพ่นทุกอย่างใส่อีกฝ่าย...วิธีนี้จะช่วยให้การสื่อสารซึ่งกันและกันดีขึ้น บางครั้งคุณแค่ต้องการระบายเหตุการณ์ต่าง ๆ ในวันมหาซวยอย่างเต็มที่ แต่เขากลับเข้าใจว่าคุณต้องการทางออกของปัญหา เมื่อสื่อสารไม่ตรงกัน...ประโยค (หวังดี) ของเขาอาจทำให้คุณปรี๊ดยิ่งกว่าเดิม “เมื่อคุณเริ่มเปิดปากบ่น...ผู้ชายมักจะทำตัวไม่ถูก พวกเขาจะปรับตัวเองสู่โหมดรับมือทันที คิดด้วยเหตุผล หาหนทางแก้ไข โดยลืมเรื่องอารมณ์ของผู้หญิงไปสิ้น” แผนรับมือของคุณก็คือ เมื่อเขาอุตส่าห์ตั้งใจฟังแล้ว ควรเริ่มด้วยประโยคที่ว่า “ตอนนี้อารมณ์ไม่ดี คุณแค่รับฟังก็พอ แต่ไม่ต้องพูดอะไรนะ...” อีกฝ่ายจะได้เข้าใจว่า..คุณแค่อยากระบาย หรือต้องการให้คนชี้แนะ เปอร์เซ็นต์ที่คุณจะไม่ได้ยินประโยคระคายหูอีกจึงมีสูง
2. ปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิง ตอนคุณอารมณ์เสียสุด ๆ เขาจะรู้สึกกดดันกับการหาทางออกของคุณ แต่ความหวังดีอาจกลายเป็นผลร้าย เพราะบางเรื่องเราไม่สามารถหาทางออกได้ อาจต้องรอเวลา หรือคนอื่นมาช่วยแนะ ยิ่งเรื่องที่เขาไม่ถนัดด้วยแล้ว เหตุการณ์และอารมณ์ของคุณอาจเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม “ผู้ชายมักรับมือกับความวิตกกังวลของอีกฝ่ายไม่ได้” แม้จะบอกไปแล้วว่าไม่ต้องพูดอะไร แค่ฟังเฉยๆ เขาก็ยังหวังดีหลุดปากออกมาอีกจนได้ เพื่อไม่ให้คุณอารมณ์เสียใส่...ลองหันมาชื่นชมความใส่ใจของเขาแทนดีกว่า ‘เมื่อรู้ว่าแฟนอยากช่วยและเป็นกำลังใจให้...คุณอาจอยากฟังสิ่งที่เขาพูด’ ถึงคุณไม่ใช้ไอเดียเขา ก็ไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาวว่าเพราะอะไร ถึงฟังแล้วไม่เข้าท่า...ก็เงียบ ๆ เถอะ คิดเสียว่าอย่างน้อยเขาก็อุตส่าห์ช่วยเรานะ...ไม่มีเหตุผลเลยที่ต้องเหวี่ยงใส่เขา
3. อย่าลืมขอบคุณนะ เพื่อไม่ให้คุณต้องทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง คราวหน้าหากเขายื่นมือเข้ามาแนะนำอีก ลองตอบกลับแบบไม่เห็นด้วยเสียทีเดียว แทนที่จะบอกปัดไปเลย ให้อีกฝ่ายรู้ว่า เออ...ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดูน่าสนใจนะ...แต่ไม่ว่าคุณจะทำตามที่เขาแนะนำหรือไม่ อย่าลืมขอบคุณเขาด้วย เรื่องนี้สำคัญมาก...และหากเขาเดินตามกฎ คือ ไม่ขัดจังหวะการระบายของคุณ อย่าลืมให้รางวัลชิ้นใหญ่กับเขาด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Women’s Health, September 2013
http://womenshealththailand.com/
ภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต

กลับหน้าแรก>>